Monthly Archives: August 2020

ค่ากำลังรับแรงแบกทานของโครงสร้างฐานรากแบบตื้น

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันเสาร์แบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ถาม-ตอบชวนสนุก” กันนะครับ   โดยที่ในวันนี้ประเด็นที่ผมได้เลือกนำเอามาตั้งเป็นคำถามประจำสัปดาห์นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันกับเรื่อง ความรู้ดีๆ เรื่องวิศวกรรมงานฐานราก งานดินและเสาเข็ม ที่ผมได้ทำการโพสต์ถึงในสัปดาห์ที่ผ่านมาและก็เหมือนเช่นเคยผมคงจะต้องออกตัวอีกครั้งหนึ่งว่า คำถามประจำสัปดาห์นี้สุดแสนจะง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยที่โจทย์ในวันนี้ก็คือ จากรูปที่แสดงจะเห็นได้ว่าเป็นกรณีของรูปตัดของโครงสร้างฐานรากแบบตื้นโดยที่คุณสมบัติต่างๆ ของทุกๆ อย่างของทั้ง 3 กรณีนี้จะเหมือนกันทุกประการยกเว้นเพียงอย่างเดียวนั่นก็คือ พฤติกรรมในเรื่องระดับของน้ำใต้ดิน ซึ่งคำถามในวันนี้ก็คือ กรณีใดระหว่างกรณีที่ 1 กรณีที่ 2 และกรณีที่ 3 ที่ดินที่ซึ่งทำหน้าที่ในการรองรับตัวโครงสร้างฐานรากแบบตื้นนั้นจะมีค่ากำลังแบกทานหรือ BEARING CAPACITY ค่าสูงที่สุด ค่ารองลงมา และค่าน้อยที่สุด   #โพสต์ของวันเสาร์ #ถามตอบชวนสนุก #ปัญหากรณีของน้ำใต้ดินที่จะมีผลต่อค่ากำลังรับแรงแบกทานของโครงสร้างฐานรากแบบตื้น ADMIN JAMES DEAN   เฉลย เป็นอย่างไรกันบ้างเอ่ย หากเพื่อนๆ ได้มีโอกาสย้อนกลับไปอ่านโพสต์ของผมเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมาก็จะเห็นได้ว่าคำถามข้อนี้นั้นง่ายมากๆ เลยใช่มั้ย ดังนั้นเรามาค่อยๆ ทำการคำนวณง่ายๆ เพื่อหาคำตอบของคำถามในข้อนี้ไปพร้อมๆ กันเลยก็แล้วกันนะครับ (1)เริ่มจากกรณีที่ค่ากำลังแบกทานของดินสูงที่สุดกันก่อน คำตอบก็คือ กรณีที่ 3 […]

หน่วยแรงเฉือนตามแนวยาวในโครงสร้างคานเชิงประกอบ

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันเสาร์แบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ถาม-ตอบชวนสนุก” กันนะครับ โดยที่ในวันนี้ประเด็นที่ผมได้เลือกนำเอามาตั้งเป็นคำถามประจำสัปดาห์นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันกับเรื่อง ความรู้ดีๆ เรื่องประสบการณ์งานคำนวณออกแบบและการก่อสร้าง ที่ผมได้ทำการโพสต์ถึงในสัปดาห์ที่ผ่านมาและก็เหมือนเช่นเคยผมคงจะต้องออกตัวอีกครั้งหนึ่งว่า คำถามประจำสัปดาห์นี้สุดแสนจะง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยที่โจทย์ในวันนี้ก็คือ   ผมมีหน้าตัดของโครงสร้างเหล็กรูป C-LIGHT LIP อยู่คู่หนึ่งและเมื่อได้ทำการออกแบบให้โครงสร้างคานนี้มีสมรรถนะที่ดีทั้งในสภาวะกำลังและสภาวะการใช้งานเสร็จเรียบร้อยแล้ว ผมจึงทำการคำนวณค่า MAXIMUM SHEAR FLOW ในหน้าตัดออกมาพบว่าจะมีค่าเท่ากับ 160 KGF/CM และพอทำการคำนวณขนาดของรอยเชื่อมทั้งที่ผิวด้านบนและล่างก็จะพบว่าจะมีค่ากำลังของรอยเชื่อมเท่ากับ 800 KGF/CM ผมอยากให้เพื่อนๆ ช่วยกันคำนวณดูหน่อยว่า หากผมจะทำการกำหนดให้รอยเชื่อมนั้นทำหน้าที่ถ่ายแรง SHEAR FLOW ทั้งหมด จะต้องทำการเชื่อมด้วยความยาวเท่าใดและมีระยะห่างกันเท่าใด โดยมีตัวเลือกดังนี้ครับ (1) ความยาวรอยเชื่อมคือ 25 MM โดยเชื่อมห่างกันโดยมีระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางถึงจุดศูนย์กลางของรอยเชื่อมเท่ากับ 125 MM (2) ความยาวรอยเชื่อมคือ 50 MM โดยเชื่อมห่างกันโดยมีระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางถึงจุดศูนย์กลางของรอยเชื่อมเท่ากับ 250 MM (3) ความยาวรอยเชื่อมคือ 100 MM โดยเชื่อมห่างกันโดยมีระยะห่างระหว่างจุดศูนย์กลางถึงจุดศูนย์กลางของรอยเชื่อมเท่ากับ […]

ต่อเติมเสริมฐานรากภายในอาคารโรงงาน เลือกใช้เสาเข็ม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)เพื่อฐานรากที่มั่นคงแข็งแรง

ต่อเติมเสริมฐานรากภายในอาคารโรงงาน เลือกใช้เสาเข็ม สปันไมโครไพล์ (Spun Micro Pile)เพื่อฐานรากที่มั่นคงแข็งแรง การเสริมฐานรากที่มั่นคงแข็งแรง ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้เสาเข็มที่มีคุณภาพ เราขอแนะนำ เสาเข็มสปันไมโครไพล์แท้ภูมิสยาม เสาเข็มขนาดเล็กที่มีความมั่นคงแข็งแรงสูง เหมาะกับงานตอกเสริมฐานราก เพราะเสาเข็มสามารถเชื่อมต่อแต่ละท่อนได้โดยการเชื่อมด้วยไฟฟ้า และใชั้ปั้นจั่นแบบพิเศษในการตอก ทำให้สามารถตอกต่อกันได้ลึกถึงชั้นดินทรายแข็ง รองรับน้ำหนักได้อย่างปลอดภัย ทดสอบการรับน้ำหนักโดยวิธี Dynamic Load Test เสาเข็มสปันไมโครไพล์ และเสาเข็ม ไอไมโครไพล์ ได้รับอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กแบบแรงเหวี่ยง มอก.397-2562 และมาตรฐานเสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็กอัดแรงหล่อสำเร็จ มอก.396-2549 มาตรฐานการออกแบบการผลิตและตอก ISO 9001:2015 และชีวอนามัยด้านความปลอดภัยในการตอก ISO 45001:2018 เพื่อฐานรากที่มั่นคงแข็งแรง รับน้ำหนักปลอดภัย เลือกใช้เสาเข็ม สปันไมโครไพล์ภูมิสยาม เราพร้อมบริการทั่วประเทศ   Miss Spunpile  Bhumisiam (ภูมิสยาม) บริษัท ภูมิสยาม ซัพพลาย จำกัด ผู้นำกลุ่มธุรกิจเสาเข็มสปันไมโครไพล์ รายแรกและรายเดียวในประเทศไทย ที่ได้การรับรองมาตรฐาน ISO 45001:2018 การจัดการอาชีวอนามัยและความปลอดภัย การให้บริการตอกเสาเข็ม The […]

ประโยชน์ของเหล็กเสริมที่ผิวล่าง ซึ่งถูกวางอยู่ในบริเวณจุดรองรับของพื้นคอนกรีตอัดแรง แบบมีแรงยึดเหนี่ยว

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันอังคารแบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เพื่อคุณผู้หญิง” นะครับ เนื่องจากเมื่อในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผมได้โพสต์และแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง จุดประสงค์และประโยชน์ของการเสริมเหล็กที่ผิวด้านล่างของแผ่นพื้นที่บริเวณกึ่งกลางช่วงของพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดดึงเหล็กทีหลัง หรือ PRESTRESSED CONCRETE POST-TENSIONED SLAB ไปแล้ว ซึ่งวันนี้ผมเลยคิดว่าจะนำเอาความรู้ที่มีความเกี่ยวข้องกันกับเจ้าพื้นชนิดนี้เอามาฝากเพื่อนๆ กันอีกสักหนึ่งโพสต์นะครับ   โดยผมจะขอเริ่มต้นจากประโยชน์ของการเสริมเหล็กที่ผิวด้านล่างของแผ่นพื้นที่บริเวณกึ่งกลางช่วงของพื้นคอนกรีตอัดแรงชนิดดึงเหล็กทีหลังก่อน ซึ่งต้องขอเฉพาะเจาะจงลงไปที่เฉพาะเหล็กล่างที่อยู่จะลอดผ่านบริเวณจุดรองรับเท่านั้น ถูกต้องแล้วเหล็กล่างตรงนี้จะมีอีกชื่อเรียกหนึ่งว่า เหล็กเสริมที่ทำหน้าที่ป้องกันการวิบัติแบบต่อเนื่อง หรือ PROGRESSIVE COLLAPSE PREVENTION REINFORCEMENT ซึ่งเนื้อหาเกี่ยวกับเรื่องๆ นี้ผมเคยได้ทำการอธิบายไปในโพสต์ก่อนหน้านี้สักพักแล้ว ซึ่งในโพสต์ๆ นั้นผมได้ทำการอธิบายไปโดยมีใจความและเนื้อหาโดยสังเขปว่า สำหรับการออกแบบในยุคสมัยปัจจุบันนั้นนอกจากการออกแบบให้โครงสร้างสามารถที่จะต้านทางแรงกระทำจากแผ่นดินไหวแล้วก็ยังมีการออกแบบเพื่อป้องกันการวิบัติแบบ PROGRESSIVE COLLAPSE ซึ่งถือได้ว่าเป็นความท้าทายวิศวกรโครงสร้างเพราะจริงๆ แล้วการออกแบบนี้อาจเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากปกติน้อยมาก หรือ อาจไม่จำเป็นต้องเสียเลยก็ได้ หากผู้ออกแบบและคนทำงานรู้จักและเข้าใจวิธีในการเสริมเหล็กให้ถูกต้องและเหมาะสม โดยที่หลักการของการเสริมเหล็กพิเศษชนิดนี้จะค่อนข้างง่ายและตรงไปตรงมามากนั่นก็คือ เราจะต้องทำการออกแบบให้มีเหล็กเสริมที่อยู่บริเวณผิวด้านล่างหักขึ้นไปอยู่ที่ผิวด้านบนในปริมาณที่เหมาะสมโดยต้องวิ่งผ่านเข้าไปในแกนของเสา เหล็กล่างนี้จะทำหน้าที่หิ้วแผ่นพื้นไว้ไม่ให้ตกกระแทกลงไปยังชั้นข้างล่าง สามารถป้องกันการเกิด PROGRESSIVE COLLAPSE ได้เป็นอย่างดีครับ   สมมติฐานที่ผมจะขอแนะนำให้แก่เพื่อนๆ ได้ใช้นั้นจะเป็นการคำนวณโดยที่จะให้ค่าแรงดึงสูงสุดที่อาจเกิดขึ้นได้ในเหล็กเสริมพิเศษนี้ ดังนั้นมุมในการหักขึ้นของเหล็กเสริมที่จะแนะนำให้ใช้นั้นก็จะมีค่าเท่ากับ 30 องศา ซึ่งเมื่อแตกแรงจากในแนวดิ่งด้วยมุมๆ นี้ก็จะให้ค่าในการแตกแรงเท่ากับ […]

การคำนวณหาค่าหน่วยแรงเฉือน ตามแนวยาวเพื่อนำมาใช้ในการออกแบบหน้าตัดเชิงประกอบ

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันพุธแบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เรื่องประสบการณ์งานคำนวณออกแบบและการก่อสร้าง” นะครับ   เมื่อประมาณสองถึงสามสัปดาห์ที่ผ่านมานั้นผมได้รับคำถามเข้ามาทางข้อความซึ่งมาจากน้องวิศวกรท่านหนึ่ง ซึ่งได้ทำการสอบถามผมเข้ามา โดยมีใจความของคำถามว่า “อยากไขข้อสงสัยเรื่องรอยเชื่อมบนโครงสร้างอเสเหล็ก จากรูปที่ 1 จะเห็นว่าเป็นแบบรอยเชื่อมคานอเสแบบประกบคู่ ซึ่งในแบบได้ทำการระบุความยาวรอยของเชื่อมเอาไว้ว่าให้มีระยะความยาวของรอยเชื่อมเท่ากับ 5 CM ทุกๆ ระยะห่างกันไม่เกิน 50 CM โดยที่ไม่ได้มีรายการคำนวณแนบมาด้วย ผมจึงอยากขอความอนุเคราะห์สอบถามอาจารย์ว่ามีวิธีในการคำนวณอย่างไรบ้าง ขอขอบคุณล่วงหน้าครับ”   ซึ่งผมก็ได้แจ้งกับน้องท่านนี้ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าในสัปดาห์นี้ผมจะเริ่มต้นโดยการอธิบายถึงเรื่องหลักการต่างๆ ที่ต้องนำมาใช้ในการคำนวณเสียก่อน ส่วนตัวอย่างในการคำนวณผมจะนำเอามาแสดงในสัปดาห์ถัดไปให้ครับ หากเพื่อนๆ ลองนึกย้อนดูไปถึงตอนที่เพื่อนๆ เรียนกันในระดับปริญญาตรีก็อาจจะพบว่า จะมีความเกี่ยวข้องกันกับหลายๆ แขนงวิชาเลยแต่แขนงวิชาที่มีความสำคัญมากที่สุดเลยก็คือ แขนงวิชาทางด้านกลศาสตร์ของวัสดุหรือ MECHANICS OF MATERIALS โดยเนื้อหาที่จะมีความเกี่ยวข้องมากที่สุดเลยก็คือเรื่อง หน่วยแรงเฉือนตามแนวยาว หรือ SHEAR FLOW นั่นเอง จากรูปที่ 2 เพื่อนๆ จะเห็นได้ว่าเป็นรูปที่แสดงที่มาของการที่การเกิดแรงเฉือนตามแนวยาวซึ่งจะเกิดจากแรงเฉือนตามแนวขวาง ซึ่งเนื้อหาโดยละเอียดผมจะขอนำเอาไปพูดถึงและทำการอธิบายในโพสต์ของวันจันทร์ต่อไปนะครับ   สรปุก็คือ หากว่าหน้าตัดชิ้นส่วนโครงสร้างที่เรานำมาใช้ในการรับกำลังน้ำหนักในแนวดิ่งนั้นไม่ได้มีความเป็นเนื้อเดียวกันอย่างสมบูรณ์ หรือ HOMOGENEOUS […]

โครงสร้างฐานรากและเสาเข็ม

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน ในทุกๆ วันพฤหัสบดีแบบนี้ ผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เรื่องวิศวกรรมงานฐานราก งานดินและเสาเข็ม” นะครับ   เมื่อประมาณ 2 ถึง 3 สัปดาห์ก่อนหน้านี้ได้มีเพื่อนที่เป็นแฟนเพจท่านหนึ่งได้สอบถามเข้ามาในโพสต์เก่าโพสต์หนึ่งที่ผมเคยได้เขียนเอาไว้เป็นบทความที่มีความเกี่ยวข้องกันกับเรื่อง การวิเคราะห์โครงสร้างเสาเข็มโดยใช้ SOIL SPRING โดยที่รายละเอียดของคำถามนั้นมีใจความดังต่อไปนี้ครับ “เรียนถามดังนี้ครับว่า มีความจำเป็นหรือไม่ ในการออกแบบฐานราก เราจะไม่ทำการคิดและคำนึงให้มีการใช้งานค่าสปริงของดินเพราะเนื่องมาจากเมื่อ 20 กว่าปีที่แล้วในตอนเรียนในระดับมหาวิทยาลัย ท่านอาจารย์ไม่เคยได้สอนเกี่ยวกับค่า SOIL SPRING เลย และพอเรียนจบมาทำงานได้มีโอกาสออกแบบอาคารเป็นร้อยๆ หลังแล้ว ผมก็ไม่เคยได้มีโอกาสใช้งานค่า SOIL SPRING เลยสักครั้งเดียว ผลก็คือ กลับไปดูงานอาคารที่ได้ทำการออกแบบออกมาในอดีตก็พบว่าโครงสร้างก็ไม่ได้มีปัญหาอะไรน่ะครับ ?”   จริงๆ แล้วคำถามข้อนี้เป็นคำถามที่ดีมากนะ ซึ่งเป็นคำถามๆ หนึ่งที่ก่อนหน้าที่ผมจะได้มีโอกาสได้ทำงานการออกแบบโครงสร้างฐานรากโดยที่มีการใช้งาน SOIL SPRING ตัวของผมเองก็เคยได้ทำการตั้งเป็นคำถามในทำนองเดียวกันนี้เหมือนๆ กัน เอาเป็นว่าในวันนี้ผมจะขออนุญาตมาตอบคำถามๆ นี้ให้แก่เพื่อนท่านนี้รวมถึงเพื่อนทุกๆ คนที่อาจจะเคยมีข้อสงสัยเกี่ยวกับประเด็นๆ นี้ให้ได้รับทราบและทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันนะครับ   ก่อนอื่นเลยผมต้องขอกล่าวก่อนว่า […]

เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก และเสาเข็มคอนกรีตอัดแรง

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน วันนี้ผมจะขออนุญาตมาทำการโพสต์และแชร์ความรู้เกี่ยวกับเรื่อง ปัญหาและเทคนิคในการทำงานก่อสร้างโครงสร้างประเภทต่างๆ มาฝากเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ   สืบเนื่องจากโพสต์เมื่อวานนี้ที่ผมได้อธิบายให้แก่เพื่อนของพวกเราท่านหนึ่งที่เป็นแฟนเพจที่น่ารักของพวกเราซึ่งได้ให้ความกรุณาทำการสอบถามปัญหาเข้ามาข้อหนึ่งทางอินบ็อกซ์ของเพจโดยมีใจความของคำถามว่า “เพราะเหตุใดพอทำการสำรวจภายในส่วนของโครงสร้างเสาเข็มไมโครไพล์ของทางบริษัทภูมิสยามจึงไม่พบว่ามีการใช้ลวด PC WIRE หรือลวดอัดแรงเลยครับ?”   ซึ่งผมก็ได้ให้คำอธิบายไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่าเป็นเพราะเหตุใด ปรากฏว่าก็ได้มีคำถามจากเพื่อนบนเฟซบุ้คของผมท่านหนึ่งว่า “อยากให้ผมยกตัวอย่างรูปจริงๆ ของโครงสร้างเสาเข็มประเภทที่เป็น เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก หรือ REINFORCED-PRECAST CONCRETE PILE และ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง PRESTRESSED-PRECAST CONCRETE PILE โดยเฉพาะ เสาเข็มคอนกรีตอัดแรง กรณีที่มีการเสริมด้วยเหล็ก MILD STEEL เพื่อทำเป็น DOWEL BAR ด้วยเพราะผมเห็นว่าหลายๆ คนยังสับสนและมึนงงกับเสาเข็มกรณีแบบนี้มากๆ ครับ”   ก็ต้องขอขอบคุณแฟนเพจท่านนี้ด้วยนะครับที่ได้กรุณาฝากคำถามกันเข้ามา ซึ่งผมก็คิดอยู่เหมือนกันว่าน่าจะดีเหมือนกันหากจะนำเอารูปตัวอย่างจริงๆ ของเสาเข็มทั้ง 2 ประเภทมาให้เพื่อนๆ ได้รับชมกัน ดังนั้นเรามาเริ่มต้นที่เสาเข็มประเภทแรกก่อนเลยก็แล้วกันนั่นก็คือ เสาเข็มคอนกรีตเสริมเหล็ก ซึ่งสามารถที่จะดูได้จากรูปที่ 1 ซึ่งจะเป็นเสาเข็มของบริษัทภูมิสยามของเราครับ โดยจะเห็นได้ว่าภายในเสาเข็มก็จะประกอบไปด้วยชิ้นส่วนหลักๆ 2 ส่วน ส่วนแรกคือ ส่วนของเหล็กยืน […]

โครงสร้างเหล็กรูปพรรณที่ได้ถูกนำไปใช้ในงานวิศวกรรมโครงสร้าง

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันอังคารแบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เพื่อคุณผู้หญิง” นะครับ   เนื่องจากเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผมเคยได้นำเอาเรื่องชนิดของโครงสร้างเหล็กรูปพรรณมาทำการอธิบายให้กับเพื่อนๆ ได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่าจะประกอบไปด้วยประเภทของเหล็กกี่ประเภท ก็มีคำถามเข้ามาจากน้องท่านหนึ่งในทำนองที่ว่า ยังไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่าง “โครงสร้างเหล็กเสริมที่ใช้ในงานวิศวกรรมคอนกรีตเสริมเหล็ก” กับ “โครงสร้างเหล็กรูปพรรณที่ใช้ในงานวิศวกรรมโครงสร้างเหล็ก” ผมจึงคิดว่า จะมาทำการอธิบายประเภทของเหล็กเสริมทั้ง 2 ชนิดนี้ให้แก่เพื่อนๆ ทุกคนได้ทำความรู้จักไปพร้อมกัน โดยที่ในสัปดาห์ที่แล้วผมได้ทำการอธิบายถึงเรื่องโครงสร้างเหล็กเสริมที่ใช้ในงานวิศวกรรมคอนกรีตเสริมเหล็กจบไปแล้ว ดังนั้นในวันนี้ผมก็จะขออนุญาตมาพูดถึงเรื่อง เหล็กรูปพรรณที่ใช้ในงานวิศวกรรมโครงสร้างเหล็กกันบ้างนะครับ สำหรับโครงสร้างเหล็กรูปพรรณหรือ STRUCTURAL STEEL นั้นจะเป็นเหล็กที่ได้จากการผลิตขึ้นจากส่วนผสมของแร่เหล็กกับคาร์บอนเสียเป็นส่วนใหญ่และก็อาจจะมีแร่ธาตุอื่นๆ บางชนิดผสมเจือปนอยู่บ้าง เช่น ฟอสฟอรัส กำมะถัน ซิลิกอน แมงกานีส ทองแดง นิกเกิล วานาเดียม โครเมียม โคลัมเบียม โมลิดินัม เป็นต้น ทั้งนี้ก็เพื่อเป็นการเพิ่มคุณสมบัติในการใช้งานด้านต่างๆ เช่น กำลังรับแรง การเชื่อมต่อกันสามารถทำได้ง่ายขึ้น ทนทานต่อการผุกร่อนจากปฏิกิริยาออกซิเดชันมากยิ่งขึ้น ให้ความเหนียวและยืดหยุ่นตัวได้มากยิ่งขึ้น เป็นต้น สำหรับคุณสมบัติทางด้านวิศวกรรมของโครงสร้างเหล็กรูปพรรณที่ถือได้ว่ามีความสำคัญก็จะได้แก่ โมดูลัสยืดหยุ่น หรือ ELASTIC MODULUS กำลังดึงที่จุดคราก หรือ […]

เหล็กเสริมที่ใช้ในงานวิศวกรรมคอนกรีตเสริมเหล็ก

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันอังคารแบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ความรู้ดีๆ เพื่อคุณผู้หญิง” นะครับ   เนื่องจากเมื่อหลายสัปดาห์ก่อนหน้านี้ผมเคยได้นำเอาเรื่องชนิดของโครงสร้างเหล็กรูปพรรณมาทำการอธิบายให้กับเพื่อนๆ ได้ทำความเข้าใจกันไปแล้วว่าจะประกอบไปด้วยประเภทของเหล็กกี่ประเภท ก็มีคำถามเข้ามาจากน้องท่านหนึ่งในทำนองที่ว่า ยังไม่ค่อยเข้าใจความแตกต่างระหว่าง “โครงสร้างเหล็กเสริมที่ใช้ในงานวิศวกรรมคอนกรีตเสริมเหล็ก” กับ “โครงสร้างเหล็กรูปพรรณที่ใช้ในงานวิศวกรรมโครงสร้างเหล็ก” ผมจึงคิดว่า จะมาทำการอธิบายประเภทของเหล็กเสริมทั้ง 2 ชนิดนี้ให้แก่เพื่อนๆ ทุกคนได้ทำความรู้จักไปพร้อมกัน ดังนั้นในวันนี้จึงเป็นครั้งที่ 2 ที่ผมจะทำการพูดถึง “โครงสร้างเหล็กเสริมที่ใช้ในงานวิศวกรรมคอนกรีตเสริมเหล็ก” นะครับ สำหรับในวันนี้ผมก็จะขออนุญาตมาพูดถึงเรื่อง “คุณสมบัติเชิงกล” ของเหล็กเสริมที่ใช้ในงานวิศวกรรมคอนกรีตเสริมเหล็กกันต่อให้เสร็จ สำหรับเหล็กเสริมทั้ง 2 ประเภทที่ผมได้อธิบายไปในครั้งที่แล้วนั้นจะได้มาจากการนำเอาธาตุเหล็ก หรือ IRON มาทำการผสมเข้ากันกับคาร์บอน ซิลิคอน แมงกานีส ฟอสฟอรัสและกำมะถัน โดยที่จะให้ความร้อนถึงจุดหลอมละลายที่อุณหภูมิสูงกว่า 3200 องศาเซลเซียส ซึ่งการที่เหล็กจะมีความสามารถรับแรงได้มากน้อยเพียงใดก็จะขึ้นอยู่กับปริมาณของธาตุอื่นที่ใส่ผสมเพิ่มเข้าไปนะครับ   โดยที่เหล็กที่จะนำมาใช้เสริมในคอนกรีตก็จะมี 2 ชนิดตามที่ผมได้อธิบายไปก่อนหน้านี้นั่นก็คือ เหล็กเสริมกลม และ เหล็กเสริมข้ออ้อย ซึ่งเหล็กเสริมประเภทหลังนี้จะมีราคาที่แพงกว่าเหล็กเสริมกลมประมาณ 3% ถึง 10% แต่ก็จะมีกำลังที่สูงกว่า 10% […]

การก่อสร้างโครงสร้างโครงข้อหมุนให้มีความแข็งแรง

สวัสดีครับแฟนเพจที่รักทุกๆ ท่าน กลับมาพบกันในทุกๆ วันเสาร์แบบนี้อีกครั้งหนึ่งซึ่งผมก็จะมาพบกับเพื่อนๆ เพื่อที่จะพูดคุยกันถึงหัวข้อ “ถาม-ตอบชวนสนุก” กันนะครับ   โดยที่ในวันนี้ประเด็นที่ผมได้เลือกนำเอามาตั้งเป็นคำถามประจำสัปดาห์นั้นจะมีความเกี่ยวข้องกันกับเรื่อง ความรู้ดีๆ เรื่องประสบการณ์งานคำนวณออกแบบและการก่อสร้าง ที่ผมได้ทำการโพสต์ถึงในสัปดาห์ที่ผ่านมาและก็เหมือนเช่นเคยผมคงจะต้องออกตัวอีกครั้งหนึ่งว่า คำถามประจำสัปดาห์นี้สุดแสนจะง่ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ โดยที่โจทย์ในวันนี้ก็คือ จากรูปโครงสร้างโครงข้อหมุนทั้ง 3 รูปที่แสดงอยู่ในโพสต์ๆ นี้ หากทั้งชิ้นส่วนที่อยู่ในคอร์ดบนหรือ TOP CHORD คอร์ดล่างหรือ BOTTOM CHORD คอร์ดที่อยู่ในแนวตั้งหรือ VERTICAL CHORD และคอร์ดที่อยู่ในแนวทแยงหรือ LATTICE CHORD นั้นมีขนาดของชิ้นส่วนเดียวกัน และ ทำจากวัสดุชนิดเดียวกันอีกด้วย โครงสร้างโครงข้อหมุนใน CASE ใดที่จะสามารถในการต้านทานแรง P หรือน้ำหนักบรรทุกแบบจุดหรือ CONCENTRATED LOAD ที่กระทำ ณ จุดกึ่งกลางของโครงสร้างโครงข้อหมุนได้มากที่สุดและเป็นเพราะเหตุใดครับ ?   #โพสต์ของวันเสาร์ #ถามตอบชวนสนุก #ปัญหาเรื่องการก่อสร้างโครงสร้างโครงข้อหมุนให้มีความแข็งแรง   เฉลย สำหรับคำตอบของปัญหาข้อนี้ก็ง่ายมากๆ เลยนั่นก็คือ หากทั้งชิ้นส่วนที่อยู่ในคอร์ดบน คอร์ดล่าง คอร์ดที่อยู่ในแนวตั้งและคอร์ดที่อยู่ในแนวทแยงนั้นมีขนาดของชิ้นส่วนเดียวกันและก็ทำจากวัสดุชนิดเดียวกันอีกด้วย […]